|
|
|
|
ความเข้าใจในเรื่องกระดาษที่ใช้ในโรงพิมพ์ จะช่วยให้ท่านสามารถเลือกกระดาษได้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน ความสวยงาม และราคาของงานพิมพ์ เรื่องที่ควรรู้จัก ได้แก่ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ชนิดของกระดาษ
กระดาษที่ใช้ในงานพิมพ์มีอยู่หลายชนิด ที่นิยมใช้โดยทั่วไป ได้แก่ |
|
1. |
กระดาษอาร์ต
กระดาษชนิดนี้เนื้อจะแน่น ผิวเรียบ เหมาะสำหรับงานพิมพ์สี่สี เช่น โปสเตอร์ โบรชัวร์ ปกวารสาร ฯลฯ กระดาษชนิดนี้ราคาค่อนข้างสูง คุณภาพกระดาษก็แตกต่างกันไปแล้วแต่มาตรฐานของผู้ผลิตด้วย มีให้เลือกหลายแบบ ได้แก่ |
|
- กระดาษอาร์ตมัน เนื้อกระดาษเรียบ เป็นมันเงา พิมพ์งานได้ใกล้เคียงกับสีจริง สามารถเคลือบเงาได้ดี ความหนาของกระดาษมีดังนี้ 85 แกรม, 90 แกรม, 100 แกรม, 105 แกรม, 120 แกรม , 130 แกรม, 140 แกรม, 160 แกรม
- กระดาษอาร์ตด้าน เนื้อกระดาษเรียบ แต่เนื้อไม่มัน พิมพ์งานสีจะซีดลงเล็กน้อย แต่ดูหรู ความหนาของกระดาษมีดังนี้ คือ 85 แกรม, 90 แกรม, 100 แกรม, 105 แกรม, 120 แกรม , 130 แกรม, 140 แกรม, 160 แกรม
- กระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้า เป็นกระดาษอาร์ตที่หนาตั้งแต่ 190 แกรมขึ้นไป เหมาะสำหรับพิมพ์งานโปสเตอร์ โปสการ์ด ปกหนังสือ หรืองานต่างๆ ที่ต้องการความหนา
- กระดาษอาร์ตการ์ด 1 หน้า เป็นกระดาษอาร์ตที่มีความแกร่งกว่ากระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้า หนาตั้งแต่ 190 แกรมขึ้นไป เหมาะสำหรับพิมพ์งานที่ต้องการพิมพ์แค่หน้าเดียว เช่น กล่องบรรจุสินค้าต่างๆ โปสเตอร์ โปสการ์ด ปกหนังสือ เป็นต้น
|
2. |
กระดาษปอนด์
เป็นกระดาษเนื้อเรียบสีขาว นิยมใช้พิมพ์งานสีเดียว หรือพิมพ์สี่สีก็ได้แต่ไม่สวยเท่ากระดาษอาร์ต สามารถเขียนได้ง่ายกว่าทั้งปากกาและดินสอ เหมาะสำหรับพิมพ์เนื้อในหนังสือ กระดาษหัวจดหมาย ฯลฯ ความหนากระดาษที่นิยมใช้พิมพ์หนังสืออยู่ที่ 70-100 แกรม |
3. |
กระดาษปรู๊ฟ
กระดาษปรู๊ฟ มีเนื้อกระดาษหยาบ สีน้ำตาล หรือขาวหม่น ฉีกขาดง่าย ราคาถูกที่สุด เหมาะสำหรับพิมพ์งานจำนวนมากๆ เช่น หนังสือพิมพ์ |
4. |
กระดาษแบงค์
กระดาษแบงค์เป็นกระดาษบางๆ มักจะมีสี เช่น สีชมพู สีฟ้า นิยมใช้พิมพ์บิลต่างๆ หรือใบปลิว ความหนาประมาณ 55 แกรม ขึ้นไป |
5. |
กระดาษแอร์เมล์
เนื้อกระดาษบางประมาณ 38 แกรม สำหรับพิมพ์บิล |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ความหนาของกระดาษ
การวัดความหนาของกระดาษทำได้ยาก เพราะกระดาษแต่ละแผ่นบางมาก ดังนั้นแทนที่จะวัดจากความหนาโดยตรง ก็ใช้วิธีชั่งนํ้าหนักของกระดาษแทน โดยอาศัยข้อเท็จจริงที่ว่า กระดาษหนาย่อมมีนํ้าหนักมากกว่ากระดาษบาง โดยพิจารณาจากน้ำหนักของกระดาษขนาด 1 ตารางเมตร ในหน่วยวัดเป็น แกรม (gsm: gram per square-metre) กระดาษชนิดเดียวกัน 120 แกรมจึงหนากว่ากระดาษ 80 แกรม
ควรเลือกใช้กระดาษกี่แกรมจึงเหมาะสม
การเลือกความหนาของกระดาษต้องพิจารณาตามงานที่เอาไปใช้ เช่นถ้าใช้ทำปกก็ต้องใช้กระดาษหนา แต่ถ้าเป็นใบเสร็จมีหลายชั้นเมื่อเขียนแล้วต้องการให้ทะลุถึงชั้นล่าง อย่างนี้กระดาษก็ต้องบาง ตัวอย่างที่นิยมใช้ ได้แก่ |
|
- ใบเสร็จ และสิ่งพิมพ์ที่ต้องมีสำเนา
นิยมใช้กระดาษประมาณ 40-50 แกรม
- กระดาษหัวจดหมาย หน้าเนื้อในของหนังสือ นิตยสาร เนื้อในของสมุด
นิยมใช้กระดาษประมาณ 70-80 แกรม
- โบรชัวร์สี่สี หน้าสี่สีของนิตยสาร โปสเตอร์
นิยมใช้กระดาษประมาณ 120 - 160 แกรม
- ปกหนังสือ นิตยสาร สมุด แฟ้มนำเสนองาน กล่องสินค้า
นิยมใช้กระดาษประมาณ 300 แกรมขึ้นไป
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ขนาดของกระดาษ
การออกแบบงานโดยไม่ทราบขนาดกระดาษนั้น ทำให้ต้นทุนในการพิมพ์งานนั้นสูงขึ้น เพราะว่ากระดาษจะไม่สามารถตัดให้ลงตัวได้ และจะเป็นเศษทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ขนาดของกระดาษในที่นี้หมายถึง กระดาษแผ่นใหญ่ ที่ตัดมาจากม้วนแล้วซึ่งมีขนาดต่างๆ ดังนี้
- กระดาษปอนด์, อาร์ตมัน, อาร์ตด้าน, ปรู๊ฟ โดยทั่วไปมีอยู่ 3 ขนาดคือ |
- 24 นิ้ว x 35 นิ้ว
- 25 นิ้ว x 36 นิ้ว
- 31 นิ้ว x 43 นิ้ว
|
- กระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้า, อาร์ตการ์ด 1 หน้า โดยทั่วไปมีอยู่ 2 ขนาดคือ |
- 25 นิ้ว x 36 นิ้ว
- 31 นิ้ว x 43 นิ้ว
|
- กระดาษกล่องแป้ง (หลังขาว, หลังเทา) โดยทั่วไปมีอยู่ 2 ขนาดคือ |
- 31 นิ้ว x 43 นิ้ว
- 35 นิ้ว x 43 นิ้ว
|
- กระดาษเคมี (ก็อปปี้ในตัว) ที่นิยมมีอยู่ 1 ขนาดคือ |
|
- กระดาษแบงค์สี โดยทั่วไปมีอยู่ขนาดเดียวคือ |
|
|
|
|
|
|
|
| |